“ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอ ONE แสดงความเชื่อมั่นว่า “สินสมุทร กลิ่นมี” จะสามารถพัฒนาฝีมือขึ้นมาได้อีกขั้น เพื่อกลับไปคว้าสิทธ์ท้าชิงบัลลังก์มวยไทย รุ่นไลต์เวต (155-170 ป.) อีกครั้ง
“สินสมุทร” นักมวยลุคหนุ่มติสท์ วัย 27 ปี เจ้าของฉายา “อควาแมนแดนสยาม” มีคิวหวนกลับมาขึ้นสังเวียนเรียกศรัทธาอีกครั้ง ในฐานะคู่เอกภาคอินเตอร์ของศึก ONE ลุมพินี 24 วันศุกร์ที่ 7 ก.ค.นี้ โดยจะพบกับ “วิคเตอร์ เทกเซรา” จอมบู๊ชาวบราซิลที่ฟอร์มกำลังสด ในกติกามวยไทย รุ่นไลต์เวต (155-170 ป.)
ก่อนหน้านี้ “สินสมุทร” เคยได้รับโอกาสให้ก้าวขึ้นไปชิงเข็มขัดแชมป์โลกมวยไทย รุ่นไลต์เวต กับเจ้าบัลลังก์อย่าง “รีเกียน เออร์เซล” ถึงสองครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถกระชากเข็มขัดมาครองได้ ด้วยการแพ้คะแนนแบบไม่เอกฉันท์ในศึก ONE Fight Night 3 เมื่อเดือนต.ค.ปีที่ผ่านมา และพ่ายแพ้แบบน็อกเอาต์ในศึก ONE ลุมพินี 9 เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
โดยแม้แต่บิ๊กบอส “ชาตรี” ยังถึงกับออกปากว่าแชมป์โลกชาวซูรินามนั้นเป็นนักชกที่แข็งแกร่งและอันตราย แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่า “สินสมุทร” จะสามารถพัฒนาฝีไม้ลายมือขึ้นมาได้อีก เพื่อกลับไปคว้าสิทธ์ในการเปิดศึกภาคสาม ท้าชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นไลต์เวต จาก “รีเกียน” อีกครั้ง
“รีเกียน เออร์เซล เป็นนักมวยไทยที่อันตรายมาก และเราก็มีนักกีฬาหลายคนที่อยากชิงเข็มขัดกับเขา รวมถึง สินสมุทร ด้วย ในครั้งล่าสุด ผมว่าเขาแพ้ไปนิดเดียว ถ้าเกิดเขาพัฒนาขึ้นอีกนิด ผมว่าเขาจะมีสิทธ์ได้ขึ้นชิงแชมป์โลกอีกครั้งหนึ่งครับ”
ด้าน “สินสมุทร” แม้จะผิดหวังซ้ำซาก แต่เจ้าตัวก็ยืดอกยอมรับความพ่ายแพ้อย่างลูกผู้ชาย และกลับไปทำการบ้านเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องของตนเอง โดยเชื่อว่าตนจะกลับมาแกร่งและเก่งกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้กำลังใจโดยตรงจาก บิ๊กบอส “ชาตรี” ที่ยังเชื่อมั่นในตัวเขา “สินสมุทร” จึงตั้งใจเต็มที่สำหรับการกลับมากู้ศรัทธาในไฟต์ที่จะถึงนี้
“ผมต้องขอบคุณ พี่ชาตรี ด้วยครับที่ยังเชื่อมั่นในตัวผม ผมจะพยายามทุกอย่างเพื่อพัฒนาตัวเอง ผมจะทำให้ได้ตามที่ พี่ชาตรี ให้คำแนะนำและให้กำลังใจผมครับ ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะมีโปรโมเตอร์คนไหนที่เห็นนักมวยแพ้แล้วจะโทรมาให้กำลังใจแบบนี้ ผมรู้สึกซาบซึ้งมากครับ”
แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19:30 น. รับชมการถ่ายทอดสดทาง ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20:30 น. รวมทั้งติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของศึกนี้ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand, เว็บไซต์ www.onefc.com และอินสตาแกรม ONEChampTh