สมาคมฯ จับมือ ไทยลีก ประชุม 16 สโมสรลีกสูงสุดหารือแนวทางการจัดแข่งขันฤดูกาล 2566/67

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2566 ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร House of Thai Football สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เป็นประธานในที่ประชุม พร้อมด้วยผู้บริหารจากสโมสรไทยลีก 1 จำนวน 16 สโมสร นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฯ และผู้แทนจากบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ร่วมประชุมเพื่อสรุปความพร้อมการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ ฤดูกาล 2023/24

ตัวแทนจาก 16 สโมสรไทยลีก 1 ประกอบด้วย เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ปวิณ ภิรมย์ภักดี  ประธานสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด, นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี, วีระศักดิ์ โจมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสโมสรชลบุรี เอฟซี, ธนวัชร นิติกาญจนา ประธานสโมสรราชบุรี เอฟซี, รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด, นิติพงษ์ ยวนตระกูล ผู้อำนวยการกีฬาสโมสรลำพูน วอริเออร์, มิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสร ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด, สุรเดช อนันทพงศ์ ผู้จัดการทีมสโมสร ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด,  ทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์ ประธานสโมสรพีที ประจวบ เอฟซี, วัฒนา ช่างเหลา ประธานสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด, วรากรณ์ บีโอนดี ผู้จัดการทั่วไปโมสร อุทัยธานี เอฟซี , สิรภพ ตรีเนตร ผู้จัดการทั่วไปสโมสรสุโขทัย เอฟซี, ชนะพงษ์ ศรีคงอยู่ ผู้ช่วยผู้จัดการทีม ตราด เอฟซี , พิมพ์ชาญา สะสมทรัพย์ ผู้จัดการทีมนครปฐม ยูไนเต็ด, พล.ต.ต. รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผู้อำนวยการสโมสรโปลิศ เทโร เอฟซี

โดยมีสาระสำคัญจากการประชุม มีดังนี้

1. สมาคมฯ ยืนยันดำเนินการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพระดับ ไทยลีก 1, ไทยลีก 2 และ ไทยลีก 3 และฟุตบอลถ้วยตามโปรแกรมที่ได้กำหนดไว้โดย บริษัท ไทยลีก จำกัด

2. สมาคมฯ ยืนยันจะผลิตสัญญาณถ่ายทอดสด และใช้ VAR ในการตัดสินการแข่งขันระดับไทยลีก 1 ครบทุกคู่ สำหรับไทยลีก 2, ไทยลีก 3 และฟุตบอลถ้วย จะมีการถ่ายทอดสดตามเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ของผู้สนับสนุน

3. ในระหว่างที่ยังไม่มีผู้ถือสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขัน สมาคมฯ ยินดีมอบให้สโมสรไทยลีก 1 เป็นผู้นำสัญญาณไปถ่ายทอดในช่องทางของสโมสรหรือนำไปเผยแพร่เพื่อสร้างรายได้ในการสนับสนุนสโมสรตามเงื่อนไขที่สมาคมฯ กำหนด
 
4. สมาคมฯ เห็นด้วยในหลักการจัดตั้งองค์กรบริหารฟุตบอลไทยลีก 1 ซึ่งจำเป็นต้องทำการศึกษาเรื่องโครงสร้างการบริหาร, ระเบียบ และข้อบังคับทางกฎหมาย ทั้งนี้ สมาคมฯ ขอให้สโมสรเข้ามานำเสนอแผนการดำเนินธุรกิจโดยละเอียดต่อไป

5. สมาคมฯ ขอเชื้อเชิญให้ผู้แทนของทั้ง 16 สโมสรเข้ามาร่วมเป็นกรรมการบริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด เพื่อร่วมตัดสินใจในการพัฒนาฟุตบอลลีกอาชีพร่วมกัน

6. สมาคมฯ จะดำเนินการมอบเงินสนับสนุนสโมสรฤดูกาล 2022/23 ที่ผ่านมา ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

7. ในสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ สมาคมฯ ยังคงนโยบายควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวดต่อเนื่องจากช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา

โดยหลังจากการประชุม นายกสมาคมฯ ได้กล่าวว่า “ด้วยระยะเวลาก่อนที่จะเปิดฤดูกาลแข่งขันใหม่นี้ ผมในฐานะนายกสมาคมฯ และผู้นำขององค์กร ขอให้คำมั่นที่จะพาฟุตบอลไทยเดินหน้าในช่วงเวลาที่ท้าทาย ในวันนี้ ผมขอยืนยันว่าการแข่งขันฟุตบอลไทยลีกจะดำเนินการแข่งขันตามกำหนด สมาคมจะรับผิดชอบในการผลิตสัญญาณถ่ายทอดสด โดยแฟนบอลจะได้รับชมการแข่งขันไทยลีกอย่างแน่นอน”

“สมาคมฯ ยืนยันที่จะให้การสนับสนุนการแข่งขันของสโมสรในลีกล่าง คือ ไทยลีก 2, ไทยลีก 3, ฟุตบอลลีกสมัครเล่น และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการแข่งขันอย่างเต็มที่ รวมถึงโครงสร้างโดยรวมของฟุตบอลไทยไปพร้อมๆกัน ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอลทีมชาติไทยชายและหญิงทุกรุ่นอายุ, ฟุตบอลลีกเยาวชน, กิจกรรม grassroots, ฟุตซอล, ฟุตบอลชายหาด, วิทยาศาสตร์การกีฬา รวมถึงการพัฒนาบุคลากรในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยต้องไม่ทอดทิ้งส่วนใด เพราะถือว่าเป็นรากฐานที่จำเป็นในการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยอย่างมั่นคง, ยั่งยืน และถาวรต่อไปในอนาคต”

“สำหรับเรื่องการบริหารไทยลีก 1 โดย 16 สโมสรของลีกสูงสุด ทางสมาคมฯ เห็นด้วยในหลักการ หากเป็นผลดีกับการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย ซึ่งสโมสรสามารถเข้ามาร่วมเป็นกรรมการบริหารของ บริษัท ไทยลีก จำกัด เพื่อให้มีอำนาจบริหารกิจกรรมการแข่งขันได้ทันที ในระหว่างที่ทั้ง 16 สโมสรกำลังพิจารณาจัดตั้งโครงสร้างขององค์กรใหม่ที่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบและข้อบังคับของสมาคมฯ และการกีฬาแห่งประเทศไทย”